Technology | Education | Lifelong Learning

สรุป 25 เรื่อง ที่ได้เรียนรู้ผ่าน STEAL LIKE AN ARTIST

สรุป 25 เรื่อง ที่ได้เรียนรู้ผ่าน STEAL LIKE AN ARTIST

  1. “ศิลปะประเถทเดียวที่ผมสนใจศึกษาคือ ผลงานที่ผมสามารถขโมยมาใช้ได้“ เลือกหา idea ที่คุ้มค่าที่น่าขโมย ไม่ใช่ว่าอันนี้ ดี หรือ ไม่ดี
  2. ไม่มีอะไรแปลกใหม่อย่างแท้จริง ทุกอย่างมีที่มา และถูก inspiration จากสิ่งที่เคยมีมาก่อนเสมอ สิ่งที่เราว่ามันแปลกใหม่อาจจะเพราะเราไม่รู้เบื้องหลังของ inspiration เหล่านั้น และ idea ใหม่มักเกิดจาก idea เก่าอย่างน้อย 1 อย่างเสมอ
  3. เปิดรับ inspiration จากสิ่งรอบตัวแทนที่จะวิ่งหนี และสร้างของแปลกใหม่ขึ้นมาจากศูนย์
  4. ศิลปินคือนักสะสม ไม่ใช่นักกักตุน อันนี้โดนมาก เพราะเราก็เป็น “นักกักตุนจะกักเก็บทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่นักสะสมจะเลือกสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว”
  5. ศึกษาที่มาความคิด เพื่อให้เข้าใจแนวทางไม่ใช่แค่ output เท่านั้น ลองหาแบบอย่างของเราสัก 2 3 คนเพื่อดูแนวทางความคิดของเค้า และมาสร้างแนวทางของเราเอง
  6. “ศึกษาให้ลึก เปิดหูเปิดตาและ ฝึกตั้งคำถาม”
  7. สร้างแฟ้มขโมย idea อันนี้น่าสนใจ หลายครั้งที่เราเจอ idea ใหม่ๆ แล้วมักโยนเก็บไว้ แล้วก็หายไปทุกที ตอนนี้กำลังเริ่มจากจัด Notion และตอนมี idea ก็จะโยน Link Tag ว่าสนใจเรื่องไหนใน idea นี้ และเขียน idea ของตัวเองเพิ่มไป เพื่อจะได้กลับมาหาง่ายๆ
  8. สมมุติว่าทำได้ไปก่อน จนกว่าจะทำได้จริงๆ “คุณต้องแต่งกายให้เข้ากับงานที่คุณอยากทำ ไม่ใช่กับงานที่คุณทำอยู่ และต้องเริ่มทำงานที่คุณอยากทำจริงๆ”
  9. เริ่มต้นเลียนแบบ ไม่มีใครมี style หรือมุมมองของตัวเองตั้งแต่เกิด ในช่วงแรกมักเกิดจากการเรียนรู้จากต้นแบบของเรา เลียนแบบไปเรื่อยๆ เมื่อสิ้นสุดการเลียนแบบคุณก็จะเจอตัวต้นของคุณ
  10. การขโมยผลงานไม่ใช่เป็นการแอบอ้าง แต่เป็นการแตก component ต่างๆ ออกมา แล้วก็กลับไปประกอบ ทำเพื่อศึกษาผลงานต่างๆ
  11. การเลียนแบบให้เราเลียนแบบจากหลายๆ คนที่คุณชอบ ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง
  12. “เปลี่ยนการเลียนแบบมาเป็นการเอาอย่าง” เมื่อเราศึกษาไปเรื่อยๆ เราก็จะเจอว่ามีบางอย่างที่ไม่ได้เหมาะกับเรา และมีบางอย่างที่เราทำได้ดีกว่า นอกจากนั้นควรเพิ่มสิ่งใหม่ๆ ที่คุณชอบเข้าไป พอเราเอามารวมกัน ก็จะเจอว่านี่คือตัวตนของเรา และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเราที่ไม่มีใครทำได้
  13. ให้เขียนสิ่งที่คุณชอบ ไม่ใช่สิ่งที่คุณรู้
  14. ถอยห่างจากหน้าจอ เพราะการได้ขีดๆ เขียนๆ ทำให้เรามีการขยับร่างกาย ทำให้สมองของเรา active ขึ้น พอมี idea แล้วอยากไปจัดกลุ่ม หรืออยากเอาไปเขียนก็ค่อยมาทำในคอม
  15. idea หลายๆ อย่างเกิดขึ้นตอนที่เราพัก หรือทำงานอดิเรก ลองทำอย่างอื่นดูบ้าง
  16. อย่าละทิ้งตัวต้นของคุณ ถ้าคุณชอบของหลายๆ อย่าง คุณควรให้เวลากับทุกอย่างที่ชอบ และ ปล่อยให้แต่ละอย่างสื่อสารกันเอง อย่ากังวลเกี่ยวกับภาพรวมของเรา เพราะทุกอย่างจะเชื่อมโยงกลับมาที่ตัวคุณที่เป็นผู้สร้าง และทุกอย่างจะสมเหตุสมผลเอง
  17. เราไม่สามารถเชื่อมจุดเข้าหากันได้ด้วยการมองไปข้างหน้า คุณจะทำได้ก็ต่อเมื่อมองย้อนกลับไปข้างหลัง – Steve job
  18. ชวนคนอื่นมาร่วมสงสัย เพราะจะได้มีเพื่อนคุยกัน
  19. อย่ากังวัลว่าคนอื่นจะขโมย idea เปิดโอกาสให้เราได้แบ่งปัน เคล็ดลับการทำงาน และแชร์ให้กับคนอื่นๆ
  20. ระยะทางและความแตกต่างเผผ็นส่วนผสมลับสำหรับความคิดสร้างสรรค์ เมื่อเรากลับถึงบ้านบ้านก็ยังเป็นบ้านของเราเหมือนเดิม แต่บางสิ่งในสมองของเราได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว และนั่นก็ทำให้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป – โจนาห์ เลห์เรอร์
  21. อยู่ใกล้ๆ คนเก่ง
  22. ผูกมิตร และมองข้ามศัตรู และทำตัวให้น่านรักกับคนรอบข้าง
  23. ทำแฟ้มเก็บคำชม เมื่อเราท้อให้เรากลับมาดูสิ่งเหล่านี้ เราไม่ได้ทำอยู่คนเดียวจะได้ไม่เหงา แต่ไม่ใช่ทำให้ตัวเองเริง
  24. อย่าทิ้งงานประจำ ถ้ามันไม่ได้น่าเบื่อจนเกินไป เพราะมันจะทำให้เรามีสังคม กิจวัตรประจำวัน และไม่ต้องไปเครียดเรื่องเงิน ถึงแม้พอทำงานประจำไปด้วย และงานที่เรารักไปด้วย มันก็เหมือนเราขอหยุดพักตัวตนนึง และขอไปใช้อีกตัวตนนึงเท่านั้น
  25. ความคิดสร้างสรรค์คือการตัดทอน เวลาคิดอะไรไม่ออกลองสร้างข้อจำกัดให้กับตัวเอง เพราะบางทีเรามีทางเลือกมากเกินไปจนสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ไม่ได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *